สธ. กำชับลดอัตราป่วยตายจากโรคไข้เลือดออก



          นายวิทยา  บุรณศิริ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  มีความห่วงใยเรื่องโรคไข้เลือดออกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม มีผู้ป่วยมาก จึงกำชับให้กรมควบคุมโรค เร่งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งนอกและในกระทรวงสาธารณสุข ย้ำไปอีกครั้งให้เฝ้าระวังอย่างเข้มข้น หลังจากที่ได้มีการประสานไปแล้วเมื่อต้นฤดูกาลระบาด เพื่อลดอัตราการป่วยตาย

          วันนี้ (1 สิงหาคม 2555) ดร.นายแพทย์พรเทพ  ศิริวนารังสรรค์  อธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวถึงกรณีปีนี้มีผู้ป่วยตายจากโรคไข้เลือดออก จำนวน 27 ราย ว่าจากการเปรียบเทียบสถานการณ์ที่ผ่านมา หากดูข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีจะพบว่าในปี 2551  มีผู้ป่วยตายจากโรคนี้ 102 ราย  ปี 2552 จำนวน 50 ราย  ปี 2553  จำนวน 139 ราย  ปี 2554 จำนวน 59 ราย และปี 2555 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม มีผู้ป่วยตาย จำนวน 27 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน พบผู้ป่วยตาย 24 ราย กระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายลดการป่วยตายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 2 อย่าง คือ ผู้ป่วยต้องมาโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีอาการช็อก และ สถานพยาบาลต้องรีบวินิจฉัยและรักษาให้ทันท่วงที จึงจะสามารถลดอัตราการป่วยตายได้ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนไปยังเครือข่ายการดำเนินงานในพื้นที่ คือสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1-12 และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งแล้ว ตั้งแต่ก่อนฤดูการระบาดให้เตรียมตัวรับมือโรคไข้เลือดออก อีกทั้งเมื่อเข้าฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงการระบาดมากของทุกปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการ ดังนี้

     1.กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ผ่านผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ให้ป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น  เพื่อลดอัตราการป่วยและอัตราป่วยตายให้ได้มากที่สุด โดยเน้น 5 มาตรการ ดังนี้

      - ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เข้าควบคุมโรคอย่างทันท่วงทีเมื่อพบผู้ป่วยไข้เลือดออก

      - กำชับป้องกันไม่ให้เกิดโรคซ้ำในพื้นที่เดิม

      - การเข้าถึงบริการรักษาต้องรวดเร็ว

     - สื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนเกิดความร่วมมือในการป้องกันโรค และหากป่วยต้องรีบเข้ารับการรักษาแต่เนิ่นๆ เพื่อลดอัตราป่วยตาย

      - ให้หน่วยงานสาธารณสุขร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ  เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ

       2.ได้สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่ง ให้จัดทำทำเนียบผู้เชี่ยวชาญและอบรมฟื้นฟูวิชาการแพทย์ โดยเน้นด้านตรวจวินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก ให้แก่แพทย์ในโรงพยาบาลทุกแห่งอย่างน้อยแห่งละ 1 คน เพื่อให้มีความรู้ในการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

       3.ขอความร่วมมือกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ผนึกกำลังกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น(อปท.) ชุมชนทำ Big  Cleaning  Day  อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้วิธี 5 ป. (ปิดฝาภาชนะใส่น้ำให้สนิท เปลี่ยนน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ทุก 7 วัน ปล่อยปลากินลูกน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และปฏิบัติตามมาตรการเป็นประจำต่อเนื่องทุก 7 วัน รวมทั้งแนะนำวิธีป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด

       4.ขอความร่วมมือสถานพยาบาลทุกแห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน หากพบผู้ป่วยมีอาการไข้  ให้พิจารณาถึงโรคไข้เลือดออกด้วย  เพื่อการเฝ้าระวังเข้าถึงบริการรักษาโรคไข้เลือดออกที่รวดเร็ว เพื่อลดการเสียชีวิต

       5.ประสานกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นให้ อปท.ทุกจังหวัดป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดอย่างเข้มแข็งและดำเนินการลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงในพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะในโรงเรียน โรงแรม  รีสอร์ท และชุมชน

          และในวันนี้ กรมควบคุมโรค ได้มีหนังสือถึงสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  เน้นย้ำเรื่องการอบรมแพทย์ ในโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง เรื่องการวินิจฉัยและรักษาโรคไข้เลือดออก เพื่อลดอัตราป่วยตายจากโรคดังกล่าว อย่างไรก็ตามพบผู้ป่วยมีไข้สูงติดต่อกัน 2 วัน แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย หากผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไม่เสียชีวิต

แหล่งข่าวโดย » กลุ่มประชาสัมพันธ์และข่าว สนง.เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมคร. 
[สิงหาคม พุธ 1,พ.ศ 2555 19:28:51] 
พิมพ์ข่าว

  ลิขสิทธิ์ โดย สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ.2553 © 2010 |